Let’s go NAGOYA ทริปสั้นสนุกมันส์ 2 วัน นาโกย่า (DAY2)

ก่อนที่จะไปเที่ยวต่อในวันที่ 2 นี้ เพื่อนๆ คนไหนยังไม่ได้ติดตามการเดินทางในวันแรก เมื่อเราบินลงที่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) ที่นาโกย่า แล้วต่อรถไฟออกมาเที่ยวในวันแรก สามารถคลิกลิ้งก์อ่านรีวิว ตอนที่ 1 เพิ่มเติมได้ค่ะ
คลิกอ่านรีวิว ตอนที่ 1 : Let’s go NAGOYA ทริปสั้นสนุกมันส์ 2 วัน (DAY1)
ได้ที่ลิ้งก์นี้ค่ะ : https://welovetogo.com/let-go-nagoya-2-day-ep1/
Day 2

เจอกันวันที่ 2 ของการเดินทางมาเที่ยวนาโกย่าค่ะ วันนี้เรามีโอกาสได้ลองใช้งานบริการนั่งแท็กซี่แบบเหมา 1 วัน แท็กซี่ของบริษัทเมเทสึ (MEITETSU TAXI) วันนี้เราได้คนขับพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย ใครมีโอกาสเดินทางมาเที่ยวนาโกย่าครั้งหน้า ลองใช้บริการกันได้นะคะ
ร้านกาแฟ KONPARU

จุดเริ่มต้นวันที่ 2 อยู่ที่ ร้านกาแฟ Konparu (KONPARU) Konparu ก่อตั้งขึ้นในปี 2490 ปัจจุบันมีร้านค้า 9 แห่งในเมืองนาโกย่า และเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงเวลาเช้าและกลางวัน การผสมผสานของกาแฟดั้งเดิมของ Compal ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2490 และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา Compal ได้นำเสนอเมนูแซนวิชแท้ๆ ที่มีแซนวิชมากกว่า 25 ชนิด รวมทั้งแซนวิชกุ้งทอด ซึ่งทั้งหมดนั้นอร่อยพอที่จะนำมารับประทานเป็นอาหารได้เลยทีเดียวค่ะ



ครั้งนี้ เรามากันที่สาขาแรกของทางร้าน ตั้งอยู่ใจกลางย่านช้อปปิ้งโอสุ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งให้ความรู้สึกย้อนยุคของเฟอร์นิเจอร์สีและผนังที่เหมือนอิฐ ภายในมีแสงไฟจากโคมไฟให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ แบบญี่ปุ่นมากๆ

เมนูแนะนำหรือซิกเนเจอร์ของร้านนี้ คือ ขนมปังแซนวิสกุ้งทอด ที่มีกุ้งทอดสามตัวกับไข่นุ่มๆ คั่นกลางระหว่างขนมปังปิ้ง กับซอสคัตสึและซอสทาร์ทาร์ อร่อยมากๆ ใครมาแล้วต้องลองค่ะ
ศาลเจ้า Kuragarinomori

อิ่มท้องแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้ากันต่อ ก่อนอื่นเราไปที่ ศาลเจ้า Kuragarinomori ศาลเจ้าอยู่ห่างจากฝั่งตะวันตกของปราสาทโควาตาริ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าคุราการิโนะโมริ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที มีคำกล่าวไว้ว่า แม้แต่แสงของดวงจันทร์ก็ไม่เล็ดลอดผ่านเข้ามา ศาลเจ้าสร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเฮอัน แต่ขอบด้านตะวันตกของที่ราบสูงอัตสึตะ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งอาจมีอายุย้อนกลับไปถึงในสมัยอาสุกะ

ศาลเจ้าของที่นี่ จะมีกำแพงกั้นสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในศาลเจ้าจากถนน



ศาลเจ้าฟุคุโมริอินาริ มีทางเดินเสาโทริอิเหมือนเขาวงกต โดยมีศาลเจ้าหลักอยู่ทางซ้ายและโอคุโนะอินอยู่ทางขวา คงจะดีไม่น้อยหากเพื่อนๆ ได้ไปเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้ และศาลเจ้าประจำศาลเจ้ามัตสึยามะ (เขตฮิงาชิ) มีชื่อเดียวกันด้วย

เครื่องรางทำจากเมล็ดลูกพีช ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผลไม้แห่งจิตวิญญาณและขับไล่สิ่งชั่วร้ายด้วยนะ เครื่องรางนี้ทำด้วยมือโดยนักบวชในศาลเจ้าแห่งนี้ค่ะ
ศาลเจ้า Shiroyama Hachimangu

มาต่อกันที่ ศาลเจ้า Shiroyama Hachimangu มีชื่อเสียงในด้านการขอพร เรื่องการแต่งงานและความรัก มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ (ทาจิบานะ) อยู่ติดกับศาลเจ้าหลัก ซึ่งจะบานสะพรั่งไปกับดอกไม้สีขาว ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และออกผลในเดือนธันวาคม ว่ากันว่าเป็นต้นไม้แห่งความอมตะ ที่ดีต่อสุขภาพกายและใจ รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และอายุยืน


มาศาลเจ้าแห่งนี้แล้ว ขอแนะนำให้ลองก็คือ โมโมโตริอิชิ (หินสีน้ำเงิน) และ อิบิอิชิ (หินสีแดง) ที่วางแยกจากกันข้างตัวอาคารศาลเจ้า หินนี้จะช่วยทำนายดวงความรัก โชคดี โชคลาภ โดยเริ่มจากการแตะหินสีฟ้าด้านหลังหลับตาอธิษฐาน หลังจากนั้นให้หลับตาแล้วหันหลัง แล้วค่อยๆ เดินช้าๆ (ต้องหลับตาตลอด) พยายามความคุมตัวเองให้ไปแตะที่หินสีแดงค่ะ

หากแตะหินสีแดงได้ ก็จะหมายความว่า จะได้โชคลาภตามคำขอ หากคุณไม่ประสบผลสำเร็จในครั้งแรก ให้ลองอีกสองหรือสามครั้ง ความปรารถนาของคุณจะเป็นจริงถ้าคุณพยายาม แต่ต้องระวังอย่าเดินเร็วเกินไป มิฉะนั้นคุณจะเดินไปชนโดนหิน และอาจได้รับบาดเจ็บได้

นอกจากนั้นที่อยากให้ลอง คือ ใบเซียมซีน้ำ ใบนี้ได้มาตอนแรกจะไม่มีตัวหนังสือ แต่พอเอาไปแตะน้ำเท่านั้น จะมีตัวหนังสือโผล่ขึ้นมาทันที คือว้าวมากๆ เลย
วัดนิตไตยจิ

ที่นาโกย่าไม่ได้มีแค่ศาลเจ้าหรือวัดญี่ปุ่นอย่างเดียว ที่นาโกย่ามีวัดไทยด้วยค่ะ วัดนิตไตยจิ เป็นวัดเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่ขึ้นตรงต่อนิกายใดนิกายหนึ่งของพุทธศาสนา วัดแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ต้นศตวรรตที่ 19 (ปี 1900~) ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีการขุดพบพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระบรมศาสดาศากยมุนีพุทธเจ้าขึ้นในประเทศอินเดีย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำเรื่องขอส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้มาประดิษฐานในประเทศของตน รัชกาลที่ 5 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ปันให้โดยไม่เจาะจงแบ่งแยกให้นิกายไหนในญี่ปุ่น

รัชกาลที่ 5 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธรูปโบราณ และพระราชทรัพย์เพื่อสร้างวัดใหม่นั้นด้วยขึ้นที่เมืองนาโกย่า เนื่องจากชาวเมืองมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและร้องขอให้มีการสร้างวัดเป็นจำนวนมาก
ปี พ.ศ. 2530 ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ได้มีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขึ้นไว้ภายในวัด นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงเสด็จเยือนไป เมื่อปี พ.ศ. 2506 อีกด้วย
ศาลเจ้า Takamu Shrine

Senso-ku ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้า Takamu Shrine ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นฐานของตระกูล Owari Monobe ในอดีตชนเผ่าโมโนโนเบะ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของตำนาน เผ่าโมโนโนเบะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอำนาจและเป็นตำนานที่สุดในญี่ปุ่น และพวกเขาก็ทำงานอยู่ในโอวาริ คำว่า “ทาคามุสุ” หมายถึง “หอก” และมีตำนานเล่าว่า นี่คือที่มาของชื่อนั่นเอง

“ฟุรุอิ โนะ มิสึ” น้ำที่นำพาความรักและทำให้อายุยืน
ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ มีสิ่งที่แปลกเกี่ยวกับน้ำของศาลเจ้าที่นี่ด้วย คือ อุณหภูมิของน้ำไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี เนื่องจากจำนวนบ่อที่ผลิตน้ำบริสุทธิ์ลดลง ชุมชนในท้องถิ่นจึงรักบ่อน้ำแห่งนี้เพราะว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

เครื่องรางของศาลเจ้าแห่งนี้ ก็จะให้โชคเกี่ยวกับความรักแบบนี้
Wakamiya Hachiman Shrine

ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างเงียบๆ ในย่านซากาเอะ ย่านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า ศาลเจ้าก่อตั้งขึ้นในช่วงประมาณปี 701 ในรัชสมัยของจักรพรรดิบุนมู ศาลเจ้านี้เดิมสร้างขึ้นใกล้กับปราสาทนาโกโนะ แต่เมื่อโทคุงาวะ อิเอยาสึสร้างปราสาทนาโกย่าในปี 1610 เขาได้ย้ายศาลเจ้าไปยังตำแหน่งปัจจุบัน และทำให้เป็นศาลเจ้าหลักของเมืองปราสาทนาโกย่า เมื่อคุณนึกถึงศาลเจ้าในนาโกย่า คุณอาจนึกถึงศาลเจ้า Atsuta หรือ Osu Kannon แต่เป็นศาลเจ้า Wakamiya Hachimangu ที่ปกป้องทั้งนาโกย่า ทางเข้าศาลเจ้ามี 2 ทาง จากประตูโทริอิทางเหนือที่หันหน้าไปทางวากามิยะ-โอโดริ หรือจากประตูโทริอิตะวันออก ที่หันหน้าไปทางยาบะโช-โดริ จึงถือเป็นศาลเจ้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของนาโกย่า

เมื่อเราผ่านประตูโทริอิอันสง่างามของศาลเจ้าแห่งนี้แล้ว บริเวณศาลเจ้าก็เต็มไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่สงบเงียบ ศาลเจ้า Wakamiya Hachimangu ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นเหมือนโอเอซิสในเมืองนาโกย่าอย่างแท้จริง

นี่คือ เครื่องรางของศาลเจ้า ที่เรียกว่า “ชิอาวาเสะโนะอิโตมากิ” ที่คุณสามารถหาซื้อได้จากศาลเจ้าวากามิยะ ฮาจิมังงุ เป็นเครื่องรางนำโชค นำพาความสุขมาให้กับเรา


ศาลเจ้า Sunosaki Shrine

ศาลเจ้า Sunosaki Shrine ตั้งอยู่ที่ย่านซากาเอะ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่าใกล้กับปราสาทนาโกย่า และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองนาโกย่า และโอสุคันนอนก็อยู่ตรงหัวมุม ศาลเจ้า Sunosaki Shrine ก่อตั้งขึ้นในสมัยเฮอันตอนต้น (794-1185) ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นทางเข้า ภายใต้การแนะนำของเทพแห่งดิน (เทพศิลา) ที่ประดิษฐานอยู่ที่นั่น Susanoo-no-Mikoto ได้อุทิศให้กับศาลเจ้า ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า Hiroi-Tenno หรือ Gyuto-Tenno

ก่อนที่ปราสาทนาโกย่าจะถูกสร้างขึ้น พื้นที่ซาคาเอะ เขต 1 ทั้งหมดถูกใช้เป็นพื้นที่ศาลเจ้า ดังนั้นจึงน่าจะเป็นศาลเจ้าที่ค่อนข้างใหญ่ หลังจากสร้างปราสาทนาโกย่าแล้ว บ้านซามูไรก็ถูกสร้างขึ้นในบริเวณใกล้เคียง และพื้นที่ศาลเจ้าก็เล็กลงมาก ในสมัยเอโดะ ศาลเจ้าตั้งอยู่ในตำแหน่งศาลเจ้าทั่วไปของศาลเจ้าโอวาริ 10 แห่ง และมีการอุทิศจำนวนมากจากราชวงศ์ ขุนนาง และตระกูลโทคุงาวะ ฯลฯ ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ในภาพเขียนของญี่ปุ่นมากมาย

ทางด้านขวาของศาลเจ้ามีสำนักงานศาลเจ้าอยู่ หลังจากเที่ยวชมศาลเจ้าแล้ว ลองแวะไปที่สำนักงานศาลเจ้า เพราะมีเครื่องรางน่ารักๆให้เลือกมากมาย

Hakuryu Ryuujyu Daishin (เทพธิดามังกรขาว) ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของงูขาวสองตัวที่อาศัยอยู่ โดยเทพเจ้างูสองตัว ซึ่งจะทำให้คุณโชคดีในด้านเงินและความมั่งคั่งในธุรกิจ นี่เป็นจุดที่ต้องไป ในการไปยังจุดนี้ ให้ผ่านประตูโทริอิทางด้านขวาของศาลเจ้าหลัก แล้วไปทางขวา
Nana Chan Doll

ตอนนี้เราอยู่ที่สถานีนาโกย่า ทักทายตุ๊กตานานาจัง หน้าห้างสรรพสินค้าเมเท็ตสึ เครื่องแต่งกายของนานาจัง จะเปลี่ยนไปตามงานเทศกาลต่างๆ สร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับผู้เดินผ่าน
อาโอยากิอุยโร

ที่สุดท้าย เราก็มาที่ร้านที่ชื่อว่า “Aoyagi Uirou” ตั้งอยู่ในอาคาร Nagoya KITTE ค่ะ ขนมอุยโร เป็นขนมญี่ปุ่นที่ทำโดยนวดแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาลเข้าด้วยกันแล้วนำไปนึ่ง มันดูคล้ายกับโยคัง แต่มีเนื้อเป็นก้อนและค่อนข้างหวานน้อยกว่า ผู้ผลิตอุอิโระในนาโกย่าหลายรายใช้แป้งข้าวเจ้าที่ทำจากข้าวอุรุจิ (ข้าวที่กินกันในญี่ปุ่นทั่วไป) ซึ่งทำให้ได้ความหวานที่ละเอียดอ่อนที่แผ่ขยายเมื่อทานเข้าไป


บรรยากาศภายในร้าน มีมุมสำหรับนั่งทานลิ้มรสขนมอุยโร และน้ำชามัทฉะ ด้วยนะ ขนมอุยโรมีความหอมและหวานพอดีและอร่อยมากๆ


สินค้ายอดนิยมของทางร้านนี้ก็คือ “เกโระทตโซะ” เป็นขนมหวานชึ่งไม่หวานจนเกินไป เต็มไปด้วยแก่นแท้ของญี่ปุ่นและตะวันตก เป็นที่นิยมมาก จนขายหมดทันทีเมืองวางขาย แถมยังเป็นของฝากจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ลองซื้อไปเป็นของของฝากจากนาโกย่ากันดูนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทริปเที่ยวนาโกย่า 2 วัน สนุกไหมคะ สำหรับในวันที่สองนี้ ก็เดินทางเที่ยวและกินของอร่อยสนุกไม่แพ้วันแรกเลย ถ้าหากเพื่อนๆ มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า อยากให้ลองแพลนนาโกย่าไว้ในการเดินทางด้วยนะคะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ บ๊ายบาย ^_^
คลิกอ่านรีวิว ตอนที่ 1 : Let’s go NAGOYA ทริปสั้นสนุกมันส์ 2 วัน (DAY1)
ได้ที่ลิ้งก์นี้ค่ะ : https://welovetogo.com/let-go-nagoya-2-day-ep1/