5 ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ไหว้ขอพรเสริมดวง ประทับใจทุกครั้งเมื่อไปเยือนญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักเที่ยวเลือกที่จะไปท่องเที่ยวเป็นลำดับต้นๆ ด้วยทัศนียภาพ วัฒนธรรม การบริการ อาหารการกิน หรือการคมนาคมที่สะดวกสบายนั้น ทำให้ใครๆ ต่างก็ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน และการมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นนั้น สิ่งนึงที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการมาสักการะขอพร ที่ศาลเจ้าในญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ และในแต่ละที่นั้นก็จะขึ้นชื่อในเรื่องต่างๆ แตกต่างกันออกไป วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำ 5 ศาลเจ้าที่จะทำให้คุณสมปรารถนากันค่ะศาลเจ้าอิสึคุชิมะ 厳島神社 [ITSUKUSHIMA – SHIRNE] ความงามของเสาโทอิริกลางทะเล
1.ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ 厳島神社 [ITSUKUSHIMA – SHRINE] ความงามของเสาโทอิริกลางทะเล

ศาลเจ้าอิสึคุชิมะนั้น เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโต ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์กร Unesco ให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ในสมัยก่อนนั้นศาลเจ้าแห่งนี้เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเกาะ และยังสั่งห้ามไม่ให้คนสามัญชนนั้นย่างก้าวขึ้นบนเกาะ และจะต้องเดินทางโดยเรือผ่านเสาประตูที่ลอยอยู่กลางทะเลนั่นเอง


โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ “เสาโทริอิ” เสาขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่กลางทะเล มีความสูงถึง 16 เมตร และหนักกว่า 60 ตัน เสาโทริอิในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 140 ปีก่อน และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เสานี้ไม่มีการตอกเสาเข็มลงใต้ดิน และยังตั้งอยู่ได้ด้วยน้ำหนักของตัวเสาเอง เป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และที่แห่งนี้ยังติดหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น (Three Views of Japan) อีกด้วย
เวลาทำการ : เปิดตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 6:30 ~ 17:30 น. ทั้งนี้เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
การเดินทางไปยังเกาะมิยาจิมะ
- เดินทางจาก JR Hiroshima Station สาย Sanyo Lone ไปยัง JR Miyajimaguchi Station หรือ นั่งรถไฟ Hiroden จากภายในเมืองฮิโรชิมะไปยัง Hiroshima Electric Railway ซึ่งเดินไปเพียง 5 นาทีก็จะถึงท่าเรือเฟอร์รี่มิยาจิมะกุจิ (JR Nishinhon MIyajima Ferry)
2.ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ 伏見稲荷大社 [FUSHIMI INARI – SHRINE] กับความงามของเสาโทอิรินับพันต้น

ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ตั้งอยู่ที่เขตฟุชิมิ เมืองเกียวโต เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต ศาลเจ้าที่มีเสาโอโทริอินับพันต้นเรียงรายเป็นแนวยาวตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าขึ้นไปบนเนินเขา มีความยาวรวมประมาณ 4 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นความสวยที่ลึกลับและ น่าค้นหาเป็นอย่างมากเลยค่ะ ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งการทำกสิกรรม ชาวญี่ปุ่นยังนับถือเทพอินาริในด้านการอุปถัมภ์ค้ำชู ส่งเสริมความเจริญในหน้าที่การงาน และการประกอบกิจการต่างๆ ซึ่งความศรัทธานี้ยังคงอยู่จนถึงยุคปัจจุบันค่ะ ในการมาขอพรนั้น ที่เสาโทริอิแต่ละต้นไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น ถ้าสังเกตดูดีๆ จะมีชื่อของคนสลักอยู่ทางด้านหลังนั้น คือชื่อของคนที่สักการะเสาโทอิริต้นนั้นค่ะ


“ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” คือศาลเจ้าที่ “เทพอินาริ” ซึ่งเป็นเทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารของญี่ปุ่นสถิตอยู่ ว่ากันว่าจะได้มีอํานาจ ตั้งแต่
- Gokokuhoujou (พืชพันธุ์งอกงาม)
- Shoubaihanjou (ค้าขายรุ่งเรือง)
- Ansan (คลอดบุตรปลอดภัย)
- Manbyouheiyu(โรคภัยหายป่วย) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่
- Goukakukigan (สอบผ่าน) เรียกได้ว่ามาที่นี่สามารถขอพรได้อย่างครบครันเลยล่ะค่ะ
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือเช็คเวลาได้ที่นี่
การเดินทางไปที่ศาลเจ้า
- รถไฟ สาย JR Nara ลงที่สถานีรถไฟ JR Inari และ สาย Keihan Main Line ลงที่สถานี Fushimi Inari
- รถบัส รถบัสสาย 南5 (ไม่ใช่สาย 5) ให้บริการตั้งแต่ Kyoto Station วิ่งผ่านหน้าศาลเจ้าพอดีเลยค่ะ
3.ศาลเจ้าอิคุตะ 生田神社 [IKUTA – SHRINE]

ศาลเจ้าอิคุตะนั้น ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ เมืองที่ใครหลายๆ คนคงคิดถึงเนื้ออร่อยๆ จากโกเบใช่มั้ยละคะ? แต่ถ้ามีโอกาสมาที่นี่แล้วล่ะก็อยากจะแนะนำให้เดินทางมาที่ “ศาลเจ้าอิคุตะ” กันนะคะ เพราะว่าที่นี่เป็น 1 ใน ศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น มีอายุกว่า 1,800 ปี เรียกได้ว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะมีเมืองโกเบซะอีก

ศาลเจ้าอิคุตะนั้นได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอพรด้านความรักก็เพราะว่า เทพเจ้าที่สถิตอยู่ และดูแลรักษาศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเทพแห่งการถักถอ คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการถักทอก็เหมือนการเชื่อมความสัมพันธ์ของคนแต่ละคนเอาไว้ด้วยกัน


เมื่อเดินเข้ามาที่นี่ สิ่งแรกที่จะเจอคือ “เสาโทอิริ” สีแดงขนาดใหญ่ แต่ก่อนจะเดินเข้าไปภายในนั้น เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องทำการล้างมือที่บ่อน้ำข้างหน้าซะก่อน เพื่อเป็นการชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์นั่นเองค่ะ ไฮไลท์ของที่นี่คือจะต้องมาเซียมซี เชื่อได้ว่าทุกคนจะต้องชอบการเสี่ยงเซียมซีกันใช้ไหมล่ะคะ แต่! ที่นี่ไม่ต้องนั่งเขย่าให้เมื่อยมือ เพียงแค่เราซื้อใบเซียมซี และน้ำไปจุ่มในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำทำนายก็จะปรากฏขึ้นมา เมื่ออ่านเสร็จแล้วก็ให้นำไปผูกไว้ในที่ที่ศาลเจ้าเตรียมไว้ค่ะ
เวลาทำการ : 8:00 ~ 17:00 น.
การเดินทางไปที่ศาลเจ้าอิคุตะ
- จากโอซาก้า ขึ้นรถไฟสาย Tokaido – Sanyo จากสถานีโอซาก้า Osaka Station มาลงที่สถานีซันโนะมิยะ Sannomiya Station เดินเท้าต่อประมาณ 5 นาที ประมาณ 400 เมตร
4.ศาลเจ้าชิโอกามะ 塩竈市หรือ塩釜市 [SHIOGAMA – SHRINE]

ศาลเจ้าชิโอกามะ เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเข้มงวดมากที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี รวมถึง ”ต้นชิโอกามะซากุระ” ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียง และยังเป็นศูนย์กลางของเมืองชิโอกามะ จังหวัดมิยะงิ ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซนได (Sendai) 15 กิโลเมตร ศาลเจ้าชิโอกามะนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของ การให้ความคุ้มครองชาวประมงในการออกเดินเรือ และการให้กำเนิดบุตรอย่างปลอดภัย


บริเวณรอบๆ ศาลเจ้านั้นยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่มีมากกว่า 300 ต้น รวมไว้กว่า 20 สายพันธ์ุ ซึ่งจะบานสะพรั่ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งปี อาทิ การแข่งขันขี่ม้ายิงธนู และงานเฉลิมฉลองอุตสาหกรรมเกลือ ซึ่ง (Shiogama หมายถึงเตาเผาเกลือ)
เวลาทำการ : เปิดตลอดทั้งปี 8:00 ~ 17:00 ทั้งนี้เวลาเปิด – ปิด ทั้งนี้เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
การเดินทางไปยังศาลเจ้าชิโอกามะ
- สามารถเดินจากสถานี Hon-Shiogama Station ไปประมาณ 10 นาที หรือเดินจากสถานี Shiogama Station ประมาณ 15 นาที และสามารถเดินทางจากเมืองเซนไดด้วยรถไฟไปประมาณ 30 นาที
5.ศาลเจ้าฮิคาวะ 氷川神社 [Musashi Ichinomiya HIKAWA – SHRINE]

ศาลเจ้าฮิคาวะ ตั้งอยู่ที่เมืองโอมิยะ (Omiya) จังหวัดไซตามะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต มีชื่อเสียงอย่างมากในการขอพรเรื่องความรัก เรียกได้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อมากๆ แห่งนึงของจังหวัดไซตามะเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่นี่มีประวัติราวๆ 1,500 ปี สักการะบูชาเทพเจ้าถึง 5 องค์ด้วยกัน เนื่องจากเป็นเทพเจ้าที่มีสามี-ภรรยา 2 คู่ด้วย คนญี่ปุ่นจึงเชื่อกันว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งความรัก” “เทพเจ้าแห่งความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภรรยา” และ “เทพเจ้าแห่งความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว” มาตั้งแต่ในอดีต


ทั้งนี้ภายในศาลเจ้ามีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราคุ้นเคยกัน อาทิ เซียมซีรูปปลาไท ขอพรให้ปลอดภัยตลอดทั้งปี, ซื้อเครื่องรางเสริมดวงด้านความรัก, “อาคาเอ็มพิตสึ (ดินสอสีแดงแห่งความรัก)” นี้เป็นเครื่องรางพิเศษเฉพาะของศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิกาวะที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่ไหนในโลก โดยมีลูกเล่นอยู่ที่ “ด้ายสีแดงแห่งโชคชะตา” ซึ่งว่ากันว่า เชือกที่ผูกเชื่อมระหว่างเรา กับเนื้อคู่นั้นจะยิ่งเข้าใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ใช้นั่นเอง

บรรยากาศภายในศาลเจ้านั้นรมรื่นมากๆ ค่ะ เพราะที่นี่รอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวขจี ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เหมือนได้รับการชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์เมื่อได้มาเยือนที่นี่แห่งนี้ค่ะ
เวลาทำการ : 5:00 ~ 17:00 น. ทั้งนี้เวลาเปิด – ปิด ทั้งนี้เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
การเดินทางไปยังศาลเจ้าฮิคาวะ
- จากสถานี “Kawagoe” ของ JR บนสาย Tobu Tojo หรือสถานี “Honkawagoe” ของ Seibu สาย Shinjuku ขึ้นรถบัส CO-EDO Loop Bus (วิ่งวนผ่านจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อต่างๆ ของคาวาโกเอะ) ลงที่ป้าย “Hikawa-Jinja Mae” ก็จะถึงด้านหน้าศาลเจ้าเลยค่ะ