Hokuriku ที่ใครหลายคนคงจะยังไม่รู้ว่ามีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ระหว่างเส้นทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้า วันนี้แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวตามเส้นทางของรถไฟ Hokuriku Shinkansen กันค่ะ
โฮคุริคุ ตั้งอยู่ในชายฝั่งตอนเหนือของภาคกลาง ซึ่งหันหน้าไปทางทะเลญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยจังหวัดโทยามะ (Toyama) อิชิคาว่า (Ishikawa) และฟุคุอิ (Fukui) การท่องเที่ยวสะดวกสบายกับทริปการเดินทางด้วยพาส Kansai Hokuriku Area Pass 7 days
โฮคุริคุเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต วิวทิวทัศน์ที่สวยงามติดอันดับของชายฝั่งทะเล สวนสวยและธรรมชาติที่งดงาม รวมไปถึงอาหารทะเลรสเลิศ ที่ไม่ควรพลาด จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ
Happiring Mall ห้างสรรพสินค้าแห่งความสุข
ศูนย์การค้าขนาดกลางอยู่ติดกับสถานี JR Fukui ภายใน Happiring มีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองฟุคุอิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของที่ระลึก มีร้านอาหาร สินค้าขึ้นชื่อของฟุกุอิ และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมีการจัดงานทุกสัปดาห์ บริเวณชั้น 1 นอกจากนี้ยังมีโรงละครโดม 8K บนชั้น 5 ซึ่งที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองฟุกุอิ คุณสามารถรับข้อมูลการท่องเที่ยวเกี่ยวกับฟุกุอิเป็นภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 19.00 น.
ร้านอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ Fukubuku Chaya บนชั้น 2 แหล่งรวมอาหารพิเศษของฟุคุอิ เช่น คัตสึด้งซอส, เอจิเซ็นโซบะ, เอจิเซ็นกานิ (ปู), โกมะโดฟุ (เต้าหู้งา), เต้าหู้ทอด และ ซาบะ โนะ เฮชิโกะ (ปลาดองในมิโซะหรือสาเกท้องถิ่น) พบเมนูพิเศษมากมายที่รวมกันอยู่ในร้านอาหารแห่งเดียว และภายในร้านมีทั้งโซนทานอาหารและร้านขายของฝากต่างๆ ของจังหวัดฟุกุอิ อีกด้วย
เวลาทำการ Happiring Mall : 7.30 – 23.00 น.
ที่อยู่ : 1 Chome-2-1 Central, Fukui, 910-0006, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zSQafUZdLNiie1iC8
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟูคุอิ (Fukui Dinosaur Museum)
สุดยอดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์สุดอลังการ ที่จัดแสดงไดโนเสาร์จำนวนมาก เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับโครงกระดูกไดโนเสาร์ครบตัว จัดแสดงถึง 43 ตัว หรือฉากไดจิโอรามา ที่แสดงการต่อสู้กันของไดโนเสาร์ สร้างความสนุกสนาน
และในบริเวณใกล้กัน ยังมีสวนสาธารณะที่มีเครื่องเล่นธีมไดโนเสาร์ ป่าไดโนเสาร์คัทสึยามะ (Katsuyama Dinosaur Forest Park) ซึ่งภายในมี “สวนไดโนปาร์ค (Dino Park)” ที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังหลงเข้าไปในป่าที่มีไดโนเสาร์อาศัยอยู่จริงๆ แค่คิดก็สนุกแล้วค่ะ ภายในตัวพิพิธภัณฑ์จัดแสดงฟอสซิลที่ถูกค้นพบที่จังหวัดฟุกุอิ มีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน จัดแสดงทั้งชนิดกินพืช และชนิดกินเนื้อ รวมถึงพันธุ์ ฟุกุอิแรพเตอร์ (Fukuiraptor) และฟุกุอิซอรัส (Fukuisaurus) ที่ค้นพบบริเวณจังหวัดฟุกุอิและใกล้เคียงด้วย
เวลาทำการ : 9.00-17.00 (เข้าชมก่อน 16:30)
วันหยุดทำการ : วันพุธที่ 2 และ 4 , วันหยุดสิ้นปี และปีใหม่
ค่าเข้าชม : 1,000 เยน (สามารถใช้ Have fun in Fukui เข้าฟรี)
เว็บไซต์ : https://www.dinosaur.pref.fukui.jp/
ที่อยู่ : 51-11 Murokocho Terao, Katsuyama, Fukui 911-8601, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WM8mQekDdfKDk8Vg9
การเดินทาง : จาก Fukui Station โดยสารรถไฟ Echizen Railway Katsuyama-Eiheiji Line ไปลงที่สถานี Katsuyama Station ต่อรถบัสมุ่งหน้าไป Nagaoyama ลงที่ป้าย Kyoryu Hakubutsukan-mae bus stop ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)
ปราสาทที่มีความงดงามในทุกฤดูกาล สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1576 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น และที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามติด 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น เมื่อซากุระประมาณ 400 ต้นกำลังบานสะพรั่ง ทำให้ภาพที่เห็นราวกับว่าปราสาทกำลังล่องลอยอยู่เหนือปุยเมฆสีชมพู ปราสาทแห่งนี้จึงมีฉายาว่า คาสึมิกะโจ หรือ ปราสาทหมอกควัน
จุดเด่นของปราสาทที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดา 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีทั้งหมด 3 ชั้น ตัวอาคารสร้างขึ้นด้วยไม้ ส่วนหลังคาเป็นกระเบื้องหิน เป็นปราสาทแห่งเดียวที่ใช้หินชาคุดานิในการสร้าง จุดเด่นอีกอย่างคือบันได ซึ่งเป็นบันไดที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่ใช้ป้องกันข้าศึก ซึ่งค่อนข้างจะสูงชันและขึ้นยากไปสักหน่อย แต่สามารถจับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานเพื่อช่วยพยุงในการปีนขึ้นไปได้ แอดถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เราสามารถชมวิวเมืองซาไกได้จากบนยอดปราสาทมารุโอกะ ธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขา ทำให้เรายืนชมวิวแบบเพลิดเพลินไปเลยค่ะ และปราสาทมารุโอกะ ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 100 ทิวทัศน์บ้านเกิดของจังหวัดฟุกุอิ อีกด้วย
เวลาทำการ : 8.30 น. – 17.00 น. (เข้าชมก่อนเวลา 16:30 น.)
ค่าเข้าชม : 450 เยน (สามารถใช้ Have fun in Fukui เข้าฟรี)
เว็บไซต์ : https://maruoka-castle.jp/
ที่อยู่ : Japan, 〒910-0231 Fukui, Sakai, Maruokacho Kasumicho, 1 Chome−59
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HQU1khDis2TQpkBq7
การเดินทาง : รถบัสจะออกจากต้นทางทุกๆ 20 นาที เป็นรถบัสสาย Hon-maruoka แล้วลงที่ป้าย ชิโร อิริกูชิ (Shiro-iriguchi) รถบัสนี้จะผ่านสถานีรถไฟอะวาระ ออนเซน (Awara-onsen) และ สถานีรถไฟฟูกุอิ(Fukui)
อะวะระออนเซ็น เซฟูโซ (Awara Onsen, Seifuso)
มีออนเซ็นกลางแจ้งในสวนที่สวยงามที่สุดในโฮคุริคุ จังหวัดฟุคุอิ (Fukui) เมื่อมาถึงที่นี่แล้วพลาดไม่ได้เลยที่จะได้ลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของปูเอจิเซ็น ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งปู”
ปูซุวะอิ (Zuwaigani) เป็นปูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาแห่งอาหารรสเลิศในฤดูหนาว” ปูซุวะอิ หาทานได้สดๆ ในแต่ละท้องถิ่นในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ปูซุวะอิ หรือที่เรียกว่า “ปูติดป้าย” การติดป้าย คือสัญลักษณ์ที่บอกว่าเป็นปูเกรดพรีเมี่ยม โดยจะมีการคัดเกรดปูกันที่ท่าเรือทุกครั้งที่มีการจับปูเข้ามา ซึ่งมีเกณฑ์การคัดเกรดตามขนาด น้ำหนัก หรือความสมบูรณ์ของขาปู ซึ่งจะบ่งบอกถึงความสวยงามและรสชาติของปู ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางใจและเชื่อถือในคุณภาพของปูได้อย่างแท้จริง
ที่อยู่ : 3 Chome-803 Hot Spring, Awara, Fukui 910-4104, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SFdpRU7EqR4qrRPW
การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa นั่งรถไฟสายหลักโฮคุริคุ ประมาณ 40 นาที ไปยังสถานีอะวะระออนเซ็น จากนั้นต่อรถยนต์ประมาณ 10 นาที ไปยังออนเซ็น
ตรอกยุเคมุริโยโกะโจ (Yukemuri Yokocho)
หมู่บ้านร้านค้าเเผงลอย อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟยูโนะมาจิ บนพื้นที่ใจกลางอาวาระออนเซ็น เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของผู้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีร้านอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่น รวมกันกว่า 9 ร้าน ประดับด้วยโคมไฟสีแดง แต่ละร้านจะมีที่นั่งไม่มาก จะมีทั้งบาร์ ยากิโทริ (ไก่ย่างญี่ปุ่น) โอเด้ง และอื่นๆ คู่กับสาเก ในบรรยากาศที่เงียบสงบไม่วุ่นวาย
การเดินทาง : เดินเพียง 2 นาที จากสถานีอาวาระยุโนมาจิ
ที่อยู่ : 1 Chome-207 Hot Spring, Awara, Fukui 910-4104, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LbLvcw2pimxQR5tZ6
Web : https://yukemuriyokocho.com/
ย่านเมืองเก่าฮิงาชิ ชายะ (Higashichaya)
ถนนโรงน้ำชาและย่านเกอิชาเก่าแก่ของญี่ปุ่น ของเมืองคานาซาว่า (Kanazawa) จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) ตลอด 2 ข้างทาง เต็มไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้ มีอายุกว่า 200 ปี เป็นสถาปัตยกรรมตั้งแต่ยุคเอโดะ ย่านนี้มีตึกที่สวยงามและเก่าแก่ เป็นหนึ่งในย่านโรงน้ำชา และแหล่งผลิตชาชายะ ในสมัยเอโดะอีกด้วย
ความพิเศษของโรงน้ำชาคือ มีการแสดงของเกอิชา (Geisha) ที่หาชมได้ยาก และไม่ได้มีการจัดแสดงทุกวัน สำหรับใครที่อยากจะมาชม ต้องเช็คข้อมูลที่เว็บไซต์ก่อนการเดินทาง กิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวคือการใส่ชุดกิโมโน เดินเที่ยวรอบๆเพื่อใส่เดินเที่ยว ถ่ายรูป ทำให้เข้ากับบรรยากาศในย่านนี้มากๆ เลยค่ะ
ที่อยู่ : Kanazawa, Ishikawa 920-0831, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FN78YDyJyr3cAKFH8
Web https://chayagai.goldleaf-sakuda.jp/en/
ร้านเช่ากิโมโนแนะนำ :Kanazawa Kirara https://kanazawa-kirara.com/english/
สาขา Higashi Chaya Main Store
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : ค่าชุดเริ่มต้นที่ 4500 เยน ค่าทำผม 1500 เยน (ยังไม่รวมvat)
เวลาทำการ : 09.00 – 18.00
Google Map : https://maps.app.goo.gl/NJfWRUuvwEQPYm3M8
การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa Station โดยสารรถบัส Kanazawa Loop Bus (วนขวา) ประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย Hashibacho(Koban-mae) bus stop หมายเลข RL5 จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden)
ตั้งอยู่ที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) ได้รับการชื่นชมให้เป็นหนึ่งใน 3 สวนที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น ชื่อสวนเค็นโรคุเอ็น มีความหมายว่า สวนที่มีคุณลักษณะ 6 อย่าง ได้แก่ ความกว้างขวาง ความเงียบสงบ การสร้างสรรค์โดยมนุษย์ ความเก่าแก่โบราณ ทางน้ำ และทัศนียภาพมุมกว้างสวนเคนโระคุเอ็น
ไฮไลท์ของสวนอยู่ที่ บ่อน้ำขนาดใหญ่ บริเวณกลางสระมีเกาะโฮไร เชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการมีชีวิตยืนยาวและความรุ่งเรือง
นอกจากนี้ ภายในสวนยังเต็มไปด้วยดอกไม้ ต้นไม้ เช่น ดอกบ๊วยและดอกซากุระที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ดอกอาซาเลียและดอกไอริซในช่วงต้นฤดูร้อน และใบไม้สีแดงและเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง
ค่าเข้าชม : 320 เยน
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน
เดือนมีนาคม – ตุลาคม เวลา 07.00 – 18.00 น.
16 ตุลาคม – กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
ที่อยู่ : 1-1 Kenrokumachi, Kanazawa, Ishikawa 920-0936, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DemX5pkmtwL5G6Uo9
Web:https://visitkanazawa.jp/en/attractions/detail_10106.html
การเดินทาง จากสถานี JR Kanazawa นั่งรถบัส KANAZAWA LOOP BUS มาลงที่ป้าย Kenrokuen Garden จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
ชายฝั่งอะมะฮาราชิ (Amaharashi Coast)
เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องทะเล และเทือกเขาเจแปนแอลป์ ตั้งอยู่ในเมืองทาคาโอกะ (Takaoka) จังหวัดโทยามะ (Toyama) ด้วยความงดงามทางธรรมชาติ ทำให้ที่นี่ติดอันดับ 1 ใน 100 ของชายหาดที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ที่นี่ถือจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ความสวยงามที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูกาลก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป และที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนคือ การถ่ายภาพขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านลัดเลาะชายฝั่งอะมะฮาราชิ และภาพบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ที่สวยงามโรแมนติกไม่น้อยเลย และที่ขาดไม่ได้คือภาพก้อนหิน Onnaiwa ขนาดใหญ่อยู่กลางทะเล ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชายหาดแห่งนี้
ที่อยู่ : Ota, Takaoka, Toyama 933-0133, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MehxyFoGQDxCaVHfA
การเดินทาง
– จากสถานี Osaka Station ใหโดยสารรถไฟด่วน JR Limited Express Thunderbird ไปลงที่สถานี Kanazawa Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
– แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ IR Ishikawa Railway ไปลงสถานี Takaoka Station ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
– จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นสาย JR Himi Line ประมาณ 20 นาที ไปลงสถานี Amaharashi Station
หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gourge)
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาแอลป์ ที่ตัดผ่านแม่น้ำคุโรเบะ (Kurobe River)
รถไฟชมวิวสายหุบเขาคุโรเบะ มีด้วยกันทั้งหมด 4 สถานี คือสถานี Unazuki Station, Kuronagi Station, Kanetsuri Station และสถานี Keyakidaira Station ระยะทางรวม 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 80 นาที ซึ่งขบวนรถไฟจะวิ่งผ่านสะพาน 20 แห่ง และลอดอุโมงค์อีกกว่า 40 อุโมงค์ ระหว่างการเดินทางเราจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขา ต้นไม้ และสายน้ำ ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้รถไฟจะจอดตามสถานีต่างๆ ให้เราได้ถ่ายภาพสวยๆ กันอีกด้วย
พิกัด : 36.810285, 137.591648
การเดินทาง
– จาก Osaka นั่งรถไฟ Thunderbird limited express ไปยัง Kanazawa แล้วเปลี่ยนไปนั่ง JR Hokuriku Shinkansen ไปลงที่ Kurobe Unazuki Onsen Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
– สถานีรถไฟสายหุบเขาคุโรเบะต้องขึ้นจากสถานี Unazuki Station โดยเดินจาก Unazuki Onsen Station ไปเพียงเล็กน้อย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)
ตั้งอยู่ในอาคารคอมเพลกซ์ “TOYAMA Kirari” ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง คุมะ เค็งโงะ ชั้นนิทรรศการอยู่ทางด้านทิศใต้ ตั้งแต่ชั้น 2F ไปจนถึงชั้น 6F
Toyama Glass Art Museum ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโทยามะ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงงานศิลปะกระจกและแก้วจากทั่วทุกมุมโลก โดยการแสดงงานศิลปะจากฝีมือด้านศิลปะกระจก Dale Chihuly, Collection Exhibition และนิทรรศการหมุนเวียนต่าง ๆ
ค่าเข้าชม : 200 เยน
เวลาเปิดทำการ : เวลา 9.30 – 18.00 น.
วันศุกร์ – วันเสาร์ เวลา 9.30 – 20.00 น.
วันหยุดทำการ : วันพุธที่ 1, 3 และวันหยุดสิ้นปี – ต้นปี
(นิทรรศการอาจมีวันหยุดแตกต่างกัน)
ที่อยู่ : 5-1 Nishicho, Toyama, 930-0062, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MQBFc1k8nXh83xUo6
สถานีคานาซาว่า (JR Station Kanazawa) สถานีที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด
สถานี Kanazawa คือสถานีหลักของรถไฟ JR West ตั้งอยู่ที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) สถานีที่ถูกครอบคลุมด้วยโดมกระจกขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างแข็งแรง เรียกว่า Motenashi Dome ใช้กระจกมากกว่า 3,019 ชิ้น สามารถเห็นวิวภายนอกได้ ที่ประตูทางเข้าทิศตะวันออกของสถานีมีประตูซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องดนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่นเรียกว่า tsuzumi (กลองขนาดเล็ก) พื้นฐานการสร้างจากประตูโทริอิที่พบได้ตามศาลเจ้าทั่วญี่ปุ่น เนื่องจากคานาซาว่ามีวัดมากมายประตูนี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของเมือง
ที่อยู่: Japan, 〒920-0858 Ishikawa, Kanazawa, Kinoshinbomachi, 1番1号
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7Ws7QHs3VbBjzsmq7
ตลาดโอมิโจ (Omicho Market)
ตลาดสดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง (Kanazawa) ที่มีความเก่าแก่กว่า 200 ปี เป็นตลาดสดที่มี 2 ชั้น มีร้านค้ามากมายกว่า 170 ร้าน ที่นี่มีทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชำ ร้านอาหาร ผัก ผลไม้ตามฤดูกาล เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเลสดๆ ร้านขายอาหารที่ให้นั่งทานในร้านก็มี และที่เห็นต่อคิวยาวเลยต้อง ข้าวหน้าทะเล ซูชิ หน้าต่างๆ แบบยืนทานกันหน้าร้านเลยก็มี
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ปูสายพันธุ์ซูไวคานิ หรือที่เรียกกันว่า ปูหิมะ ขายาว เนื้อหวาน อร่อยมาก ถ้ามาแล้วต้องลองให้ได้
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน)
ร้านค้า 8.00 – 18.00 น.
ร้านอาหาร 11.00 – 21.00 น.
ที่อยู่ : 50 Kamiomicho, Kanazawa, Ishikawa 920-0905, Japan
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6yQtbV1Ks4N7JWtB8
การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa
– นั่งรถบัส Kanazawa Loop Bus Left Loop มาลงที่ป้าย Musashigatsuji หมายเลข LL1
– นั่งรถบัส Kenrokuen Shuttle Bus มาลงที่ป้าย Musashigatsuji หมายเลข S1
การเดินทางสะดวกสบายสำหรับทริปโฮคุริคุ ด้วยพาสดีๆ อย่าง Kansai Hokuriku Area Pass 7 days + Have Fun in Fukui Pass การเดินทางสุดคุ้มแบบไม่มีสะดุด
JR West Kansai-Hokuriku Area Pass เดินทางได้ไม่อั้น ทั้งในแถบ Kansai, Okayama, Kinosaki Onsen, Amanohashidate, Tottori, Kishi, Shirahama และ Kii-Katsuura และเพิ่มไปถึงแถบ Hokuriku (Toyama, Ishikawa, Fukui และบางส่วนของ Niigata)
รถไฟที่สามารถใช้บริการได้
– รถไฟหัวกระสุน “SANYO SHINKANSEN” (Shin-Osaka <> Okayama) ที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
– ใช้ Pass ในการขึ้นรถไฟ Hello Kitty Shinkansen ได้
– รถไฟหัวกระสุน “HOKURIKU SHINKANSEN” (Kanazawa <> Joetsu-Myoko) ที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
– รถไฟประเภท Express Train ชื่อ “HARUKA” “THUNDERBIRD” “KUROSHIO” “KONOTORI” “SUPER HAKUTO” (Kyoto <> Kamigori) และอื่น ๆ ที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
สามารถทำ Reserved Seat ที่ตู้ปกติได้ฟรีแบบไม่จำกัดครั้ง สามารถใช้กับขบวน Sanyo Shinkansen (Shin-Osaka<>Okayama) HOKURIKU SHINKANSEN” (Kanazawa<>Joetsu-Myoko) และขบวนรถไฟด่วนพิเศษ HARUKA, THUNDERBIRD, KONOTORI
– รถไฟประเภท Special Rapid Service หรือ Rapid Service หรือประเภท Local ในเส้นทางเดินรถไฟธรรมดาของ JR-WEST
– WEST JAPAN JR BUS ใช้ได้เฉพาะกับรถบัสประจำทางภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการรสบัสด่วนได้
ขั้นตอนและวิธีการแลกตั๋วที่เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติ สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะhttps://www.westjr.co.jp/…/howto/ticket-vending-machine/