Season Of love Hokkaido

Autumn-Winter ฮอกไกโดที่รัก

ฮอกไกโด (Hokkaido) เมืองในฝันที่หลายคนตั้งใจจะมาเยือนให้ได้สักครั้ง เนื่องด้วยมีธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายฤดู วันนี้จะมาแนะนำสถานที่น่าสนใจใน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn) และฤดูหนาว (Winter) ของทั้งสองฤดูให้ได้ตามรอยไปเที่ยวกัน ฮอกไกโดยังเป็นชื่อเรียกของทั้งจังหวัดและภูมิภาค เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น รองจากเกาะฮอนชู ซึ่งฮอกไกโดมีเมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองใหญ่ และมีเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมจำนวนมาก เช่น โอตารุ (Otaru) ฮาโกดาเตะ (Hakodate) อาซาฮิคาวะ (Asahikawa) และอื่นๆ แถมยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารแสนอร่อย พร้อมแล้วก็ตามไปชมสถานที่สวยๆ ใน Season Of love Hokkaido Autumn-Winter ฮอกไกโดที่รัก กันเลยค่ะ

การเดินทาง : มายังฮอกไกโด (Hokkaido) สามารถนั่งเครื่องบิน บินตรงจากไทยไปลงที่สนามบินชิโตเสะ (New Chitose Airport) ได้เลย หรือถ้ามาจากโตเกียว ก็สามารถนั่งรถไฟชินคันเซนมาได้เช่นกัน 

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีฮอกไกโด (Autumn in Hokkaido)

จะเริ่มในช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน โดยเดือนตุลาคมจะเป็นหนึ่งในเดือนที่สวยที่สุดของฮอกไกโด เพราะจะเป็นช่วงพีคของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มีสถานที่มากมายให้ไปเที่ยวชม มีทั้งใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง สวยงามน่าประทับใจมากค่ะ

1. สวนนากาจิม่า (Nakajima Park)

สวนสาธารณะ นากาจิม่า (Nakajima Park) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เต็มไปด้วยสีสันความสดใสของบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองซัปโปโร สามารถมาเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งโทนสีแดง สีส้ม และสีเหลือง พร้อมอากาศเย็นสบาย ซึ่งในสวนสาธารณะ นากาจิม่า จะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย และต้นเมเปิ้ล ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีสันสวยงาม สร้างความโรแมนติกให้กับที่นี่ และด้านในยังมีบ่อน้ำที่เราสามารถเดินสูดอากาศดีๆ รอบบริเวณ หรือจะจัดเต็มเสื้อผ้าแฟชั่นเก๋ๆ มาโพสท่าถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ ได้สบายเลยค่ะ 

ช่วงที่แนะนำ : ปลายเดือนกันยายน ถึง ปลายเดือนตุลาคม

ที่อยู่ : 1 Nakajimakoen, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0931 ญี่ปุ่น

2. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)

อุโมงค์ต้นแปะก๊วย ที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองอร่าม  มีความยาวกว่า 380 เมตร ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่น ที่ต่างเดินทางมาเก็บภาพความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพีคที่มีการจัดงานเทศกาล และประดับไฟในยามค่ำคืน ก็ยิ่งเพิ่มความงดงามให้ตลอดทางของอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองนั้น เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและโรแมนติกมากยิ่งขึ้น

ช่วงที่แนะนำ : ปลายเดือนตุลาคม ถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน

ที่อยู่ : 5 Chome Kita 8 Jonishi, Kita Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0808 ญี่ปุ่น

3. ฮิราโอคะ อาร์ต เซ็นเตอร์ (Hiraoka Greenery Center)

ฮิราโอคะ อาร์ต เซ็นเตอร์ (Hiraoka Greenery Center) เป็นสวนสาธารณะในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มีไฮไลท์สำคัญคือ “อุโมงค์ใบไม้แดง” เป็นทางเดินอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลยาวไกลสุดสายตา ผู้ที่มาชมจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เพราะในสวนมีต้นเมเปิ้ลหลากหลายสายพันธุ์รวมกว่า 700 ต้น มีทางเดินที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นเมเปิ้ลสูงใหญ่โค้งเข้าหากัน จนเกิดเป็นภาพอุโมงค์สีแดงสวยงาม สำหรับช่วงฤดูอื่นอย่างเช่น ฤดูใบไม้ผลิ ที่สวนแห่งนี้ก็ยังมีต้นซากุระที่เรียงรายดูคล้ายอุโมงค์สวย และดอกไม้อื่นๆ เช่น ดอกฟูจิ (หรือ ดอกวิสทีเรีย) ที่มีลักษณะเป็นพวงห้อยระย้าสวยงาม 

4. หุบเขานรกจิโกคุดานิ (Noboribetsu Jigokudani Hell Valley)

หุบเขานรกจิโกคุดานิ (Jigokudani) หรืออีกหนึ่งฉายาเรียกว่า “Hell Valley” ซึ่งแปลว่า “หุบเขานรก” เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya (Shikotsu-Toya National Park) เป็นหุบเขาที่มีความงดงามเลื่องชื่อ ของเมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) ซึ่งเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปแช่ออนเซ็น เพราะอยู่ไม่ห่างจากเมือง Sapporo มากนัก เดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว โดยชื่อ Jigokudani มาจากชื่อของภูเขาไฟ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีความสำคัญกับเมืองนี้มาก เนื่องจากมีปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีน้ำพุร้อนกำมะถัน และหุบเขานรกจิโกคุดานิ (Jigokudani) ก็ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้กลายเป็นแหล่งกำเนิดธารน้ำร้อน ที่มีแร่ธาตุกำมะถันไหลไปทั่วเมือง Noboribetsu จนทำให้เมืองนี้มีสถานที่สำหรับแช่ออนเซ็นอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นที่นี่ยังมีสะพานไม้ให้เดินชมธรรมชาติโดยรอบ และจะปิดสะพานไม้ใน

ช่วงฤดูหนาว โดยทางด้านเหนือสุดของหุบเขา หากเราเดินไปก็จะพบกับทะเลสาบ Oyunuma ทะเลสาบน้ำร้อนที่มีขนาดใหญ่ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ถือเป็นช่วงพีคสุดของการท่องเที่ยวที่นี่ เพราะจะได้เห็นบรรดาต้นไม้และใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสีแดงส้มสวยงามทั่วบริเวณ สวยจนไม่อยากกระพริบตาเลยค่ะ

ช่วงที่แนะนำ : ต้นเดือนตุลาคม ถึง ปลายเดือนตุลาคม                                                                                  

ที่อยู่ :  Noboribetsuonsencho, Noboribetsu, Hokkaido 059-0551 ญี่ปุ่น

5. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park)  

ไดเซ็ตสึซัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด โดยคำว่า “ไดเซ็ตสึซัง” มีความหมายว่า “ดอยหลวงหิมะ” ในอุทยานแห่งนี้จึงมียอดเขาที่มีความสูงเกิน 2,000 เมตร อยู่ถึง 17 ยอด และยังเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามอีกแห่งหนึ่งของฮอกไกโด ภายในอุทยานแห่งชาติประกอบไปด้วย เทือกเขา เส้นทางเดินป่า น้ำพุร้อน และสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง ยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวญี่ปุ่นและนักถ่ายภาพว่า เป็นสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสี เริ่มเปลี่ยนสีเป็นที่แรกของญี่ปุ่นในทุกปี และจะมีวิวทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจ รอบหุบเขาจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเหลืองแดงของไม้ใบสลับกันอย่างงดงาม ใบไม้บนภูเขานั้นใช้เวลากว่า 1 เดือนในการเปลี่ยนสี แล้วค่อยๆ ไล่ลงมาจากยอดเขาจนถึงเชิงเขาด้านล่างจุดขึ้นกระเช้า 

การขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Ropeway) เพื่อไปชมวิวสวยๆ ของใบไม้เปลี่ยนสีด้านบนยอดเขานั้น สามารถเดินทางไปได้โดยง่าย 

  • จากสถานี JR Asahikawa นั่งรถบัสใช้เวลาราว 30 นาที มาลงที่ป้าย Asahidake Onsen ในส่วนของอาซาฮิดาเกะโรปเวย์ (Asahidake Ropeway) จะได้รับการดูแลโดย Wakasa Resort ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาที่ความสูงถึง 489 เมตร 
  • หรือจากสถานี Kamikawa บนสาย JR Shimokitamon นั่งรถประจำทางสาย Sounkyo-Kamikawa Line ไป 30 นาที ลงที่ป้าย Sounkyo Onsen แล้วนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาอีกราว 10 นาที ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงรองลงมา คือ ยอดเขาคุโรดาเกะ สูง 1,984 เมตร ขึ้นไปได้ด้วยการนั่งกระเช้าไฟฟ้าโซอุนเคียวโรปเวย์ (Sonkyo ropeway) และเก้าอี้แขวน (Chair Lift) จากหุบเขาโซอุนเคียว 

ช่วงที่แนะนำ : กลางเดือนกันยายน ถึง กลางเดือนตุลาคม

ที่อยู่ : Sounkyo, Kamikawa cho, Kamikawa District, Hokkaido 078-1701 ญี่ปุ่น 

6. ทะเลสาบโนโตโระ (Lake Notoro) ชมปะการังหญ้าสีแดง

ปะการังหญ้าสีแดง ที่ทะเลสาบโนโตโระ (Lake Notoro) เป็นอีกหนึ่ง ปรากฏการณ์ทะเลสาบสีแดง แหล่งท่องเที่ยวอันซีนฮอกไกโด ที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เพราะที่ทะเลสาบโนโตโระ (Lake Notoro) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่เชื่อมต่อกับทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk) อยู่ในเมืองอะบะชิริ (Abashiri) ทางตะวันออกของเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) พอเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ปะการังหญ้าเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอยู่ทั่วบริเวณ ตามแนวชายฝั่งของทะเลสาบ ซึ่งเราสามารถเดินชมได้จากบนสะพาน แถมมีลมพัดเย็นสบายเหมือนเราเดินอยู่กลางพรมแดงผืนใหญ่บนทะเลสาบแห่งนี้เลยค่ะ 

ปะการังหญ้าสีแดง หรือ หญ้าซังโกะ (Sango Sou) คำว่า “ซังโกะ” แปลว่า ปะการัง ถึงแม้จะเรียกชื่อว่าปะการังหญ้า แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงพืชที่ขึ้นได้ทั้งบนบก และในที่ที่มีน้ำขัง หรือในบึงต่างๆ เมื่อมองด้วยสายแบบกว้างๆ แล้วจะมีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้า แต่ถ้าหากเราดูแบบระยะใกล้ๆ จะเห็นว่ามีรูปร่างเป็นปล้องๆ คล้ายกับปะการัง สำหรับความสวยงามของปะการังหญ้าสีแดงที่สร้างปรากฏการณ์ทะเลสาบสีแดงนี้ ช่วงที่สวยที่สุดในการมาเที่ยวชมคือ ช่วงปลายเดือนกันยายน และที่นี่ยังเป็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีอีกรูปแบบหนึ่งที่หาชมได้ยากอีกด้วยค่ะ 

ช่วงที่แนะนำ : ต้นเดือนกันยายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม

ที่อยู่ : Abashiri, Hokkaido ญี่ปุ่น

เมื่อความสวยงามของ “ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” ผ่านไป

ฮอกไกโดก็ ก้าวเข้าสู่ “ฤดูหนาว” ที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโปรยปรายสวยงามค่ะ

ฤดูหนาวฮอกไกโด (Winter in Hokkaido)

จะเริ่มในช่วงเดือนธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ ฤดูหนาวเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฮอกไกโด เพราะว่ามีปุยหิมะสีขาวนุ่มๆ ตกลงมาปกคลุมยอดเขามากมาย จนกลายเป็นภูเขาสีขาวราวกับว่าถูกโรยน้ำตาลไอซิ่ง เดือนที่หนาวที่สุด คือ เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ฮอกไกโดยังเป็นแหล่งเล่นกิจกรรมที่เกี่ยวกับหิมะ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยค่ะ

7. ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า

(Former Hokkaido Government Office Building)

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างจากอิฐจึงเป็นที่รู้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่งว่า ทำเนียบอิฐแดง (Red Brick Office) เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวอาคารจะถูกหิมะปกคลุมสวยงามดั่งภาพวาด สีขาวของหิมะจะตัดกับสีอิฐแดงของตัวอาคาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นจุดถ่ายรูป ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองซัปโปโร ทำเนียบอิฐแดง ถูกสร้างตามแบบนีโอบาโรกของอเมริกา ในปี ค.ศ.1888 เป็นเวลากว่า 80 ปี ที่ศาลาว่าการเมืองหลังเก่าทำหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ดาวสีแดงที่ผนังอาคารภายนอกกล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด เพราะนั่นคือ สัญลักษณ์ตัวแทนของทูตผู้บุกเบิก และภายในตัวอาคารยังเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับฮอกไกโด มีร้านค้าพิพิธภัณฑ์ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว และห้องประชุม ฯลฯ ถ้าหากได้มาเยือนซัปโปโรกันแล้วก็ไม่อยากให้พลาดจุดถ่ายรูปทำเนียบอิฐแดงนี้กันค่ะ

ช่วงที่แนะนำ : เดือนมกราคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์

ที่อยู่ :  nishi 6 Chome Kita 3 Jo, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-8588 ญี่ปุ่น

8. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) 

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) เมืองอะซาฮิกาว่า (Asahikawa) ฮอกไกโด ที่นี่บรรยากาศติดลบหนาวมาก! ปากสั่นเลยค่ะ Asahiyama Zoo เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงของเมือง Asahikawa มีสัตว์รวม 800 ชีวิต กว่า 150 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นสัตว์ในเมืองหนาว สามารถเข้าชมสัตว์ได้จากหลายมุมมอง เช่น อุโมงค์แก้วผ่านสระว่ายน้ำของนกเพนกวิน โดมแก้วขนาดเล็กที่สามารถโผล่ขึ้นมาดูหมีขั้วโลก และที่นี่ยังมีสัตว์มากมายให้ชม เช่น เสือ นกเพนกวิน หมีขั้วโลก (หมีขาว) แมวนํ้า สิงโตทะเล และสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย มาเปลี่ยนบรรยากาศชมสัตว์โลกแสนน่ารักท่ามกลางหิมะก็สนุกดีเหมือนกัน

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด คือ พาเหรดนกเพนกวิน (Penguin Parade) ซึ่งเป็นโชว์ที่ขึ้นชื่อของสวนสัตว์อะซาฮิยาม่าแห่งนี้ ในฤดูหนาวจะมีขบวนพาเหรดนกเพนกวิน ที่นักท่องเที่ยวต่างตั้งตารอคอยถ่ายรูป โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จะพาเพนกวินออกมาเดินเล่นแก้หนาว เรียงเป็นแถวยาวเหมือนขบวนพาเหรด ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ เดินช้าๆ เป็นแถวเรียงหนึ่งดูแล้วน่ารักเชียวค่ะ 

ช่วงที่แนะนำ : เดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์

ที่อยู่ : Kuranuma Higashiasahikawacho, Asahikawa, Hokkaido 078-8205 ญี่ปุ่น

9. ล่องเรือตัดน้ำแข็ง เมืองอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice) 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฤดูหนาวฮอกไกโด ก็คือ ล่องเรือตัดน้ำแข็ง ที่เมืองอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship) นับเป็นไฮไลท์ของฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว ที่ควรหาโอกาสมาชมให้ได้ โดยธารน้ำแข็ง (Drift ice) คือน้ำทะเลจากฝั่งรัสเซีย ในบริเวณอาร์กติกและแอนตาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic and Antarctic Circle) ซึ่งห่างจากฮอกไกโดถึง 1,000 กิโลเมตร แข็งตัวจนกลายเป็นน้ำแข็งขนาดต่างๆ เจ้าน้ำแข็งก้อนสีขาวๆ เหล่านี้ จะถูกกระแสลมพัดมาชนชายฝั่งทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) ของฮอกไกโด (Hokkaido) จนกลายเป็นธารน้ำแข็ง ชวนให้อยากไปเปิดประสบการณ์แปลกใหม่อันน่าตื่นเต้นบนเรือตัดน้ำแข็งสักครั้ง ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และ จะมีให้ชมมากที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

เรือออโรร่า (Aurora) เป็นเรือตัดน้ำแข็งเพื่อการเที่ยวชมธารน้ำแข็งอะบาชิริ สำหรับทัวร์ชมธารน้ำแข็งต่างๆ มักจะเริ่มต้นที่เมืองอะบาชิริ (Abashiri) โดยเรือออโรร่า (Aurora) เคลื่อนตัวออกไปแบบช้าๆ บนธารน้ำแข็ง เป็นเรือขนาดใหญ่ที่ล่องไปบนผืนน้ำได้อย่างมั่นคง คอยตัดน้ำแข็งไปเรื่อยๆ และเราสามารถชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด จากจุดชมวิวบนดาดฟ้าเรือ มีอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส ผู้โดยสารจะรู้สึกสนุกสนานไปกับเสียงแรงกระแทกของน้ำแข็งที่ถูกบดขยี้ พร้อมมีลมทะเลพัดมาโดนเราโดยตรงจากบนดาดฟ้าเรือ หากว่ารู้สึกหนาว ก็สามารถเข้ามาด้านในห้องโดยสารได้ เพราะบนเรือมีฮีทเตอร์ให้ความอบอุ่นไว้คลายหนาวด้วยค่ะ 

10. คลองโอตารุ (Otaru Canal)

บรรยากาศเมืองท่าสุดโรแมนติก “โอตารุ” (Otaru) ฮอกไกโด (Hokkaido) หลายคนเมื่อได้มาเยือนฮอกไกโดก็จะไม่พลาดมาที่นี่ “คลองโอตารุ (Otaru Canal)” แลนด์มาร์คชื่อดังในฮอกไกโด (Hokkaido) ที่มีลำคลองไหลผ่านกลางเมือง มีตึกโกดังเก่าแบบคลาสสิก บรรยากาศเมืองน่ารักและโรแมนติก มีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ปัจจุบันปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร รวมถึงอาคารสไตล์ยุโรปที่มีอยู่มากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) ทำให้เมืองโอตารุแห่งนี้ มีจุดถ่ายรูปสวยๆ น่าประทับใจหลายมุม และมีของที่ระลึกขึ้นชื่อหลายชนิด เช่น เทียนโอตารุ กล่องดนตรี ฯลฯ 

จากถนนเลียบคลองโอตารุ มายังซาไกมาจิ (Sakaimachi) มีบรรดาร้านค้าต่างๆ อยู่มากมาย เช่น Kitaichi Glass มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องแก้ว, เครื่องประดับ, ร้าน LeTAO เป็นร้านชีสเค้กชื่อดัง และ Otaru Orgel Doh ที่มีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกทานตามความชอบ ทั้งอาหารทานเล่น อาหารทะเลเสียบไม้ย่าง ร้านซูชิ หรือร้านอาหารเต็มรูปแบบ เหมาะที่จะเดินเล่นดื่มด่ำบรรยากาศไปพร้อมกับแวะชิมของอร่อย และช้อปปิ้งของที่ระลึกได้อย่างมีความสุขค่ะ

ช่วงที่แนะนำ : เดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์  

ที่อยู่ : Minato-machi, Otaru-shi, Hokkaido

11. จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate) เกาะฮอกไกโด ที่นี่เป็น จุดชมวิวมุมกว้างแบบพาโนรามาโอบล้อมไปด้วยทะเลและภูเขา สวยงามทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) นับเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุด ร่วมกับอีก 2 สถานที่คือ ภูเขาอินาซะ (Mount Inasa) ที่นางาซากิ (Nagasaki) และภูเขารอคโค (Mount Rokko) ที่โกเบ (Kobe) ทำให้การมาเยือนฮอกไกโดทั้งที ก็ต้องมีภูเขาฮาโกดาเตะอยู่ใน แพลนด้วยค่ะ 

สำหรับด้านบนจุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะนั้น เราต้องขึ้นโรปเวย์ (Ropeway) ราคารวมไป-กลับ 1,500 เยน ใช้เวลาเพียง  3 นาทีเท่านั้น ก็ถึงสถานีด้านบนยอดเขาแล้ว ขณะที่เรานั่งโรปเวย์ขึ้นไปยังยอดเขา ถ้านั่งหันหน้าไปทางด้านหลังและมองออกไปที่หน้าต่าง จะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะจะมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามจากมุมสูง ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปยังยอดเขา โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มองลงมาเห็นหิมะสีขาวปกคลุมเมืองฮาโกดาเตะ มีน้ำทะเลขนาบอยู่ทั้งสองด้าน พอขึ้นมาถึงด้านบนบอกได้เลยว่า วิวสวยสุดยอดมาก กดชัตเตอร์กันแทบไม่ทันเพราะสวยทุกมุมจริงๆ และถ้าใครกลัวว่าจะหิวล่ะก็ ด้านบนเขามีบริการร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารด้วยค่ะ

ช่วงที่แนะนำ : เดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์  ที่อยู่ : 19-7 Motomachi, Hakodate (the Ropeway station)

ที่อยู่ : 19-7 Motomachi, Hakodate (the Ropeway station)

12. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Saporo Snow Festival)

เทศกาลหิมะซัปโปโร (Saporo Snow Festival) มาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะเป็น เทศกาลประจำฤดูหนาวอันยิ่งใหญ่ในเมืองซัปโปโร บนเกาะฮอกไกโด ที่เราจะได้เพลิดเพลินกับหิมะ และประติมากรรมน้ำแข็งขนาดยักษ์ พร้อมชมวิวเมืองซัปโปโรที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะแสนโรแมนติก โดยปกติแล้วเทศกาลหิมะซัปโปโร (Saporo Snow Festival) ในเมืองซัปโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) จะมีการจัดงานเทศกาลนํ้าแข็งอยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือ 

– ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) จะปิดถนนใหญ่ให้คนเดิน และมีการจัดแสดงงานแทน มีการประกวดประติมากรรมน้ำแข็งที่เป็นรูปสลักจากก้อนนํ้าแข็ง (ice sculpture) งานแสดงแสงสี มีบาร์น้ำแข็งให้ได้เพลิดเพลินด้วย

– ย่านซึโดเมะ (Tsu-Dome) มีการจัดสไลเดอร์ยักษ์ พร้อมรูปปั้นหิมะโชว์เป็นสัตว์และตัวการ์ตูนต่างๆ และกิจกรรมให้ได้สนุกสนาน มีลานหิมะที่ทำเป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ 

– ย่านสวนโอโดริ (Odori Park) ภายในสวนโอโดริจะมีผลงานประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก จำนวนกว่า 200 ผลงาน เรียงรายไปตามเส้นทาง มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณสวนโอโดริมีจัดงานประกวดประติมากรรมหิมะ ที่หลากหลายประเทศทั่วโลกส่งตัวแทนมาเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งด้วย บรรยากาศน่าสนุกและตื่นเต้น ในช่วงเย็นจะมีประดับไฟและเล่นเทคนิค แสง สี เสียง กับน้ำแข็งที่แกะสลัก รวมถึงประติมากรรมหิมะต่างๆ บริเวณสวนโอโดริระหว่างทางจะมีร้านอาหารของฮอกไกโดให้บริการด้วย

ช่วงที่แนะนำ : เดือนกุมภาพันธ์  

ที่อยู่ : Odori Nishi 1 Chome, Chuo-ku, Sapporo

หากเพื่อนๆ มีโอกาสมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือช่วงฤดูหนาว ก็ลองตามรอยสถานที่สวยๆ ในรีวิวนี้กันดูนะคะ รับรองว่าจะหลงรัก “ฮอกไกโด” อย่างแน่นอนค่

____________________________

ข้อมูลท่องเที่ยวฮอกไกโด (ภาษาไทยอย่างเป็นทางการ)

HOKKAIDOLOVE!Website:

https://hokkaidolove.jp/th/

HOKKAIDOLOVE!Facebook :

https://www.facebook.com/hokkaidolove.th/