ถ้าพูดถึง “จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” เพื่อนๆ คงจะนึกถึงที่เที่ยวอย่าง “หัวหิน” เป็นอันดับต้นๆ ใช่มั้ยล่ะคะ แต่ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน กับการเช็คอิน 10 พิกัด ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราพาเปลี่ยนบรรยากาศ นอนทั้งโรงแรมชิคๆ และโฮมสเตย์ราคาแค่หลักร้อย แต่วิวนี่สิสวยมากจนต้องบอกต่อ ซึ่งเส้นทางดังกล่าว บางส่วนเป็นการตามรอยเส้นทางของพี่ติ๊ก “เนวิเกเตอร์” ซึ่งพี่ติ๊กได้พาเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำหรับใครยังไม่เคยมาสัมผัส…ต้องหาโอกาสมาเที่ยวด้วยตัวเองสักครั้งแล้วล่ะ แล้วจะรู้ว่า “แอ่งทะเลตะวันตก” น่าโดนขนาดไหน!! ถ้าพร้อมแล้วเก็บกระเป๋าออกไปลุยกัน 3 วัน 2 คืน เย้!! เย้!!

1. ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
ที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” โดยบรรยากาศด้านในเมื่อได้เข้ามา มันช่างรู้สึกเย็นสบายเสียจริงๆ เพราะมีความเขียวขจีจากใบไม้สูงตระหง่านปกคลุมบังแดดให้เราเดินชมธรรมชาติได้อย่างสบายใจ ก่อนจะมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาที่วนอุทยานปราณบุรีและทรงมีความห่วงใยต่อป่าชายเลน จากนั้นชาวชุมชนปากน้ำปราณ หน่วยงานต่างๆ จึงเริ่มปลูกป่าชายเลนตามโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และพระราชทานนามที่นี่ว่า “สิรินาถราชินี” ใครที่มาเที่ยวชมที่นี่แล้ว ห้ามพลาดกับจุดชมวิวที่อาคาร 3 ชั้นนะคะ เห็นมุมสูงแบบพาโนราม่าเลยทีเดียว
ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032 632 255










2. ร้านอาหารชาวเล ปากน้ำปราณ
กองทัพย่อมเดินด้วยท้อง ฮ่าๆ เที่ยวป่าชายเลนกันเสร็จแล้ว เรามาทานข้าวกลางวันกันที่ ร้านอาหารชาวเล ปากน้ำปราณ ตั้งอยู่ริมถนนเลียบชายทะเลปากน้ำปราณ ระหว่างซอยผาสุขวณิชย์ 10-12 บรรยากาศร้านเป็นสไตล์ไทยโมเดิร์น ด้านในโปร่งๆ มีลมทะเลพัดเอื่อยๆ เย็นสบาย อาหารหลากหลาย รสชาติอร่อยจนต้องขอเติมข้าวเลยค่ะ
ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 086 398 9199





3. ถ้ำพระยานคร
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ “ถ้ำพระยานคร” ยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” ด้วย นอกจากจะทึ่งกับความมหัศจรรย์ของถ้ำขนาดใหญ่ที่เกิดจากการสึกกร่อนทางธรรมชาติแล้ว ยังได้ชมความงดงามของ “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ด้านบนมีปล่องให้แสงตกกระทบลงมายังพระที่นั่ง ช่างสวยสะกดสายตาจริงๆ
การเดินทาง จอดรถได้ที่ลานจอดรถหาดบางปู บริเวณนั้นจะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และห้องน้ำ แล้วเดินมาติดต่อเรือได้ที่ซุ้มอุทยานฯ ราคาไปกลับ 400 บาท นั่งได้ 6 คน นั่งเรือมาลงที่หน้าหาดทางเข้าถ้ำพระยานคร และเดินเท้าต่อขึ้นเขาระยะทาง 430 เมตร ซึ่งบนหาดที่ตั้งถ้ำพระยานครก็มีร้านอาหารและห้องน้ำบริการด้วยเช่นกัน เปิดบริการ 8.00-16.00 น.

















4. โรงแรมวาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท อ.กุยบุรี
ที่พักน่ารักมากๆ สำหรับโรงแรมวาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท (Vartika Adventure Retreatic Resort) ตั้งอยู่ในอำเภอกุยบุรี ตกแต่งห้องนอนหลายสีมุ้งมิ้ง ถ้าบ้านไหนมีน้องๆ หนูๆ มาด้วยต้องตื่นตาตื่นใจแน่ๆ ค่ะ ที่นี่มีจักรยานให้ใช้ฟรี มีฟิตเนส ห้องอาหาร สวนหย่อม พื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ห้องพักพร้อมระเบียง และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ มากมาย ที่พักตั้งอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี 28 กม. ที่สำคัญสามารถพาน้องหมาเข้าพักได้ด้วย
ที่ตั้ง ตำบลบ่อนอก อำเภอกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 089 887 7539










5. หมู่บ้านรวมไทย อ.กุยบุรี
บ้านรวมไทย หรือ หมู่บ้านรวมไทย เป็นหนึ่งในเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” และเป็นที่พักโฮมสเตย์ราคาหลักร้อยที่ไม่ควรพลาด มีวิวสวยๆ ของทุ่งหญ้าแพงกอร่าสีเขียวสดชื่น แถมยังเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในตำบลหาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หมู่บ้านรวมไทยมีโฮมสเตย์ทั้งหมด 7 หลัง แถมรวมกิจกรรมกว่า 4 กิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าจะร่วมกิจกรรมอะไร อาทิ ทำกระดาษสาจากใบสัปปะรด, ชมสัตว์ป่ากุยบุรี เป็นต้น พอตกเย็นก็ทานข้าวให้อิ่มท้อง ซึ่งเราสามารถเลือกได้ 2 แบบ ว่าจะทานแบบโฮมสเตย์ หรือทานกับชาวไร่ในไร่ ส่วนการเที่ยวจุดชมวิวต่างๆ ไม่ต้องพูดถึง เพราะเราจะได้สัมผัสเสน่ห์ของชุมชนในด้านต่างๆ มากมาย เช่น ถ่ายรูปที่ทุ่งหญ้าสีเขียว ดูวิถีชีวิตชุมชน ชมธรรมชาติ เรียนรู้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การทำชาใบหม่อน ชมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งกิจกรรมในหมู่บ้านรวมไทย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและความเหมาะสมในแต่ละฤดูกาลค่ะ
หมู่บ้านรวมไทย มีที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
โฮมสเตย์ ราคา 750 บาท/ต่อคน รวมกิจกรรมกว่า 4 กิจกรรม (ไม่รวมดูช้างกุยบุรี)
กางเต็นท์ ราคา 250-350 บาท/ต่อหลัง พร้อมเครื่องนอน ติดต่ออุทยานแห่งชาติกุยบุรี หรือชุมชนก็ได้ รับได้สูงสุด 80 คน
กิจกรรมชมช้างและสัตว์ป่ากุยบุรี สามารถเหมารถกระบะเข้าไป คันละ 850 บาท นั่งได้ 8-10 คน พร้อมคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน คนไทยคนละ 40 บาท ต่างชาติ 100 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว
ที่ตั้ง ตำบลหาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 065-5389645 (คุณส้ม)



























6. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซาฟารีเมืองไทย ที่ใครหลายคนกล่าวถึง อีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” นอกจากการมาเที่ยวชมหรือจะพักค้างคืนที่หมู่บ้านรวมไทยแล้วนั้น เรายังมาเที่ยวต่อเพื่อชมบรรยากาศของป่าสีเขียวของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และสัตว์ป่ามากมาย ทั้งฝูงช้าง ฝูงกระทิง ส่องนกแปลกๆ สีสวย ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยติดต่อที่บ้านรวมไทยได้อีกด้วย นั่งรถกระบะโฟวิลพร้อมคนขับรถ และไกด์ท้องถิ่นที่มาให้ความรู้ เราจึงได้ชมทัศนียภาพ ถ่ายรูปได้แบบเต็มที่
กิจกรรมชมช้างและสัตว์ป่ากุยบุรี สามารถเหมารถกระบะเข้าไป คันละ 850 บาท นั่งได้ 8-10 คน พร้อมคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน คนไทยคนละ 40 บาท ต่างชาติ 100 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว
ที่ตั้ง ตำบลหาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 065-5389645 (คุณส้ม)












7. ร้านเรือริมธาร
แวะทานอาหารเย็นที่ร้านเรือริมธาร บรรยากาศโดดเด่นเห็นได้ชัดเจน กับเรือสีขาวที่อยู่ในทะเล ดูเด่นเป็นสง่า บริเวณรอบร้านมีบรรยากาศกลมกลืนกัน ทั้งหมู่บ้านชาวประมงกับฉากหลังเป็นทิวเขาตะเกียบ ดูสวยงามเพลินตาดี มีอาหารรสเด็ดหลายเมนูให้เลือกด้วยค่ะ
ที่ตั้ง หมู่บ้านเขาตะเกียบ เขาตะเกียบ หนองแก หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 081-857-1614








8. โรงแรมริชเช่ หัวหิน Riche Hotel Hua Hin
ที่นี่อยู่ติดถนนใหญ่สะดวกสบาย ห่างจากตลาดเพลินวานแค่ 1.4 กิโลเมตร ห้องพักสะอาดมีระเบียงส่วนตัว มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ฟิตเนส และแผนกต้อนรับที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง มีห้องอาหาร และใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้เราเดินทางสะดวกมากขึ้น
ที่ตั้ง ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032 520 888







9. สวนเกษตร ป่าละอู
พามาเที่ยวกันต่อที่สวนเกษตร ชิมทุเรียนหมอนทอง เนื้อเนียนนุ่มหวานมัน ทุเรียนป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีเคล็ดลับความนุ่มหวานของทุเรียนป่าละอู อยู่ที่การปลูก ซึ่งพื้นที่การปลูกนั้นเป็นลักษณะหุบเขาคล้ายท้องทะเล เนื้อทุเรียนเลยมีสีเหลืองอ่อน เนียนนุ่ม หวานมัน เม็ดลีบ กลิ่นไม่แรง อย่างที่ทุกคนเห็นนี่แหละค่ะ แถมทุเรียนป่าละอูยังปลูกในร่มกล้วย ดังนั้นจึงมีใบกล้วยช่วยบังแดด เรียกได้ว่าพิถีพิถันในการปลูกมากเลย ที่นี่มีหลายสายพันธุ์แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ชะนีและหมอนทอง นอกจากสวนเกษตรของพี่อังกูรจะปลูกทุเรียนแล้ว ที่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ยังมีกลุ่มอนุรักษ์ผ้าทอมือของชาวบ้านให้เราแวะชมและซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้ด้วยค่ะ
ที่ตั้ง สวนพี่อังกูร ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 062-2959498














10. ร้านอร่อย@หัวหิน
ร้านอาหารในบรรยากาศติดริมถนน และทีเด็ดคือ อาหารรสชาติอร่อย จึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อไปที่ร้านแล้วจะเห็นคนเยอะมากทีเดียว ยิ่งในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แน่นเลยล่ะขอบอก ที่ร้านยังมีกรุ๊ปทัวร์ลงอีกด้วย ทำให้ร้านคึกคักน่าดู ถ้าจะมาทานที่ร้านแนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้าไว้ก่อนดีกว่า เพราะร้านอร่อยถ้าไม่จองเดี๋ยวต้องคอยนาน ฮ่าๆ โซนที่นั่งมีด้านล่างรับลมธรรมชาติ กับด้านบนชั้น 2 เป็นห้องแอร์เย็นสบาย
ที่ตั้ง ซ.หมู่บ้านหนองแก ตำบลหัวนา อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 083 562 4444







วันหยุดหน้า หาเวลาไปเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยว “แอ่งทะเลตะวันตก” กันนะคะ ซึมซับธรรมชาติกับบรรยากาศที่กุยบุรี และที่อื่นๆ เชื่อว่ายังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่ไม่เคยมา แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1672