เชียงคาน-เลย 2 วัน 1 คืน มาสัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ริมโขง

ตื่นเต้นไปกับความสูงเสียว ที่เที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ สกายวอร์ค เชียงคาน และเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนไทดำ ถนนคนเดินที่มีบ้านไม้เป็นเอกลักษณ์ วิถีสโลว์ไลฟ์ริมโขง ที่ไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดกันเลยค่ะ

ทริปนี้ต้อมมีโอกาสมาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ของจังหวัดเลย ที่จัดโดย อพท. ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อะไรมากมาย เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

โดยเฉพาะพื้นที่เชียงคาน ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบของ อพท. ที่ได้เลือกบรรจุใน 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก หรือ Sustainable Destinations TOP 100 จากหน่วยงานระดับโลก Green Destinations Foundation ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับคณะผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ITB (Internation Tourism Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตามมาเที่ยวเชียงคาน จ.เลย เที่ยวง่ายๆ แต่สนุกมาก กับเวลา 2 วัน 1 คืน กันค่ะ

(DAY 1)

วัดศรีคุณเมือง

“วัดศรีคุณเมือง” หรือ “วัดใหญ่” ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน ทุกวันพระ และวันสำคัญทางพุทธศาสนา วัดแห่งนี้จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทั้งชาวเชียงคาน และนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมกัน

สิ่งที่น่าสนใจเมื่อเดินผ่านกำแพงแก้วเข้ามาบริเวณวัด ต้องสะดุดตากับโบสถ์เก่าแก่ที่มีหลังคาลดหลั่นตามแบบศิลปะล้านช้าง บริเวณผนังด้านหน้าบรรณ ของพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังนิทานพระพุทธชาดก ด้านในจะพบกับพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ปางประทานอภัย สร้างตามแบบศิลปะล้านช้างหรือแบบลาวเหนือ

ร้านระเบียงโขง

แวะเติมพลังกันที่ร้านนี้ หลังจากเดินเล่นชิลๆ แล้ว ก็มาอิ่มอร่อยทานอาหารกับร้านวิวดี ในบรรยากาศริมแม่น้ำโขง จะเรียกว่าความชิลปนความชิคก็ย่อมได้ เพราะมีวิวสวยๆ ของสายน้ำและธรรมชาติให้ได้ชื่นชม พร้อมไปกับการทานอาหารอร่อยๆ หรือจะเป็นเมนูปลาต่างๆ ของเชียงคาน สำหรับมื้อนี้เราฝากท้องกับ “ร้านระเบียงโขง” ซึ่งเดินมาได้จากที่พักไม่ไกลค่ะ อิ่มท้องแล้วแวะเข้าเช็คอินที่พัก เก็บกระเป๋า แล้วออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อได้เลย

ลานวัฒนธรรมวัดท่าคก

อีกหนึ่งการสร้างสรรค์อาหารถิ่นอย่างมีเรื่องราว ที่มีการปรับแต่งรูปแบบอาหารถิ่นให้มีรสชาติ หน้าตา ที่น่าลองลิ้มชิมรสกัน และเป็นการตอกย้ำจุดขายของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาอาหารถิ่นของเมืองเชียงคานให้ก้าวไปอยู่ในทำเนียบของมิชลิน สตาร์ (Michelin Star)

ที่มาจากความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย และองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเลย(อพท.๕) โดยมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy tourism ที่ไม่ได้หมายถึงเพียงการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชิมอาหารรสเด็ด ณ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังมีความหมายกว้างถึงการสร้างวงจรอาหารที่จะสร้างอาชีพให้ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนอีกด้วยค่ะ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดเมือง TOP 100 ณ เมืองเชียงคาน พร้อมเดินเยี่ยมชมถนนคนเดินเชียงคานด้วย

ศูนย์วัฒนธรรมคนไทดำ บ้านนาป่าหนาด

เรียนรู้วิถี “ไทดำ” ที่บ้านนาป่าหนาด หมู่บ้านของคนเชื้อสายไทดำ หรือ ไทชงดำ หรือไทโซ่ง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อีกกลุ่มที่ได้เข้ามาเพิ่มเติมสีสันให้แก่อำเภอเชียงคาน ซึ่งแต่เดิมบรรพบุรุษของชาวไทดำอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทย บริเวณแม่น้ำดำ แม่น้ำแดง ในแคว้นสิบสองจุไทย ที่มีเมืองแถน หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ครั้นเมื่อเกิดสงครามตั้งแต่สมัยสงครามฝรั่งเศสเวียดนาม จึงได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานมาปักหลักอยู่ที่ “บ้านนาป่าหนาด” จึงได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านไทดำเพียงแห่งเดียวในจังหวัดเลย และยังประกอบพิธีกรรมที่ตกทอดจากบรรพบุรุษท่ามกลางวิถีชีวิตสมัยใหม่

ศูนย์วัฒนธรรมไทดำแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางการรวมกลุ่มของชาวบ้านในการทำงานด้านหัตถกรรม ซึ่งหลักๆ ก็จะทำการทอผ้าด้วยวิธีแบบเดิม และดัดแปลงตัดผ้าเป็นผ้าคลุม ผ้าถุง เสื้อ ไว้สำหรับขายให้นักท่องเที่ยว สินค้าที่แปรรูปจากผ้าทอ รวมทั้งเสื้อผ้าของชาวไทดำก็มีขายให้นักท่องเที่ยวได้อุดหนุน ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน เป็นการกระจายรายได้ให้ชาวบ้านมีงานมีรายได้จากการท่องเที่ยวค่ะ

การจัดทำ “โคมไฟ” ที่ดัดแปลงมาจากตุ้มหนู (กรง) และ ตุ้มนก (กรง) เพื่อใช้เป็นเครื่องรางที่แสดงถึงความโชคดีของชุมชนที่แขวนไว้หน้าบ้านทุกหลัง นำมาประดับตกแต่งงานต้อนรับได้อย่างสวยงาม

พร้อมชมการแสดง ฟ้อนแคน และ แซปาง การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวไทดำ

ถนนโคมไฟไทดำ

ซื้อของถิ่น กินจุ๊บผัก สัมผัสวิถีไทดำ ดื่มด่ำบรรยากาศถนนโคมไฟ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง อพท.และศูนย์วัฒนธรรมคนไทดำ ที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบทางวัฒนธรรม ด้วยการจัดกิจกรรม พัฒนาเส้นทาง วางโปรแกรมการท่องเที่ยว ให้สอดรับกับอัตลักษณ์ของชนชาติพันธ์ไทดำ โดยนำวิถีชีวิตของชาวไทดำ เข้ามาเป็นจุดขายที่สำคัญ ทั้งอาหาร เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ ของฝาก ของที่ระลึกของชุมชน ศิลปะการแสดง และการละเล่น ที่ล้วนแล้วเป็นเสน่ห์แห่งวิถีที่รักษาจวบจนปัจจุบัน เพื่อให้นักท่องเที่ยว เข้าถึงวัฒนธรรมไทดำมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะการจัดทำ “โคมไฟ” ที่ดัดแปลงมาจากตุ้มหนู (กรง) และ ตุ้มนก (กรง) เพื่อใช้เป็นเครื่องรางที่แสดงถึงความโชคดีของชุมชนที่แขวนไว้หน้าบ้านทุกหลัง นำมาประดับตกแต่งบนถนนคนเดินในยามค่ำคืน เพื่อเป็น ถนนคนเดินอีกเส้นหนึ่งของ เชียงคาน

ถนนคนเดินเชียงคาน

ถนนคนเดิน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับการมาเที่ยวเมืองเชียงคาน เพราะมาเที่ยวเชียงคานแล้วต้องเดิน ไม่งั้นเดี๋ยวมาไม่ถึงนะคะ ฮ่าๆ ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เป็นถนนที่เลียบไปกับริมฝั่งแม่น้ำโขง ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร เสน่ห์ของถนนสายนี้ คือการที่มีบ้านเรือนไม้เก่า มีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟและอาหารพื้นเมืองที่นักท่องเที่ยวชิม ช้อปไม่มีเบื่อค่ะ

บ้านระเบียงโขง 2

บ้านระเบียงโขง 2 ที่พักของเราในทริปนี้ นอกจากร้านอาหารที่เราทานกันเมื่อกลางวันแล้ว เราก็ยังจองที่พักของที่บ้านระเบียงโขงด้วย ห้องพักสะอาด สะดวกสบาย อยู่ติดถนนคนเดินเลย มีห้องน้ำในตัว ทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ราคาวันธรรมดาเริ่มต้นที่หลักร้อยค่ะ

(DAY 2)

ตักบาตรข้าวเหนียว ยามเช้า

ตื่นเช้าแสนสดชื่น มาทำกิจกรรมดีๆ นั่นคือ ตักบาตรข้าวเหนียว ท่ามกลางวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวริมโขง เชียงคานยามเช้า อากาศเย็นสบาย นั่งรอพระยามเช้าบนเสื่อหน้าที่พักเรียงเป็นแถวสวยงาม เป็นการตื่นเช้าที่สดชื่น ไม่ต้องรีบร้อน สโลว์ไลฟ์สไตล์เชียงคาน สบายจนไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ

ริมโขงยามเช้า

บรรยากาศเย็นสบาย พร้อมชมสายหมอกบางๆ ปกคลุมภูเขา เป็นภาพที่สวยงามมาก หลังเสร็จจากการตักบาตร ก็แวะเดินเล่นถ่ายรูปอีกสักรอบ แวะทานอาหารเช้าตามร้านค้าต่างๆ ที่จะเปิดให้บริการอาหารเช้า แล้วค่อยกลับที่พักเตรียมเช็คเอ้าท์กลับบ้านกัน เพื่อนๆ คนไหนยังไม่เคยได้มาสัมผัสความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสุขแบบนี้ หาโอกาสมาเที่ยวเชียงคานกันสักครั้งนะคะ

ร้านลุกโภชนา

ร้านอาหารเช้าที่เราเดินมาแวะทานกัน หลังจากชมวิวสวยๆ ของริมโขงยามเช้ากันเสร็จแล้ว ทางที่พักจะมีคูปองอาหารเช้าให้เรา เป็นคูปองเงินสด เราก็นำมาใช้ทานกันที่ร้านนี้ได้เลย ส่วนใครอยากทานหลายเมนูก็สั่งมาเพิ่ม แล้วจ่ายเงินเพิ่มเติมกับทางร้านได้เลยค่ะ

ผาสาดลอยเคราะห์

ประเพณีโบราณ ผาสาดลอยเคราะห์ ใครยังไม่เคยมาลอยแนะนำให้ลองมาลอยดูนะคะ เพราะเชียงคานเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีการสืบทอดความสวยงามในประเพณีต่างๆ ที่เกิดจากความศรัทธา และความเชื่อปฎิบัติกันมารุ่นต่อรุ่น พิธี “ลอยผาสาดลอยเคราะห์” เป็นพิธีกรรมเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งชาวเชียงคานจะร่วมแรงร่วมใจจัดขึ้นเป็นงานใหญ่ในช่วงวันออกพรรษาของทุกปี สมัยโบราณเชื่อกันว่า หากผู้ใดเห็นสิ่งไม่ดี สิ่งไม่เป็นมงคล หรือมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ประสบเคราะห์ร้าย ให้ทำการลอยผาสาด เพื่อเป็นการลอยสิ่งไม่ดีทิ้งไปที่แม่น้ำโขง จะทำให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา โดยเมื่อปล่อยผาสาดลอยไปกับแม่น้ำแล้ว อย่าหันกลับไปมอง เพราะจะถือว่าเป็นการอาลัยอาวรณ์กับทุกข์โศก เคราะห์กรรมค่ะ

ผาสาดลอยเคราะห์จะทำขึ้นง่ายๆ ด้วยวัสดุธรรมชาติและอุปกรณ์ในท้องถิ่น เช่น ใบตอง กาบกล้วย ไม้ไผ่ กระดาษและเทียนขี้ผึ้ง แต่การประดิษฐ์ผาสาดจำเป็นต้องอาศัยความประณีตและความชำนาญในงานฝีมือของผู้รู้ท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นกระบวนการที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และเข้าใจ “จิตวิญญาณ” ของพื้นที่โดยผ่านการชี้แนะของผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านในชุมชน และยังสามารถลอยได้ทุกวัน

ทั้งนี้ผาสาดจะมี 2 ขนาด คือ ขนาดเล็กเรียกว่า ผาสาดลอยเคราะห์ จะใช้กับการลอยเคราะห์ทั่วไป ส่วนขนาดใหญ่เรียกว่า ผาสาดสะเดาะเคราะห์ ใช้สำหรับคนที่มีเคราะห์ใหญ่ เจ็บป่วยเจียนตาย หรือชะตาขาด และจะมีพิธีทางพราหมณ์ด้วย

ค่าบริการกิจกรรมผาสาดลอยเคราะห์ ท่านละ 150 บาท โดยมีอุปกรณ์ตกแต่งให้เราพร้อม เรามีหน้าที่ตกแต่งกระทงเพื่อนำไปลอย ตามคำแนะนำของผู้รู้ แต่ถ้าจะมาเรียนคอสขั้นตอนการทำตั้งแต่เริ่มต้น เช่น การจุ่มทำเทียนเป็นรูปดอกไม้ ทำตัวกระทง และอื่นๆ ราคาท่านละ 300 บาท

ติดต่อสอบถามได้ที่
โทร. 086-2315335 (ป้านาง)
แพนพิมโฮมสเตย์ ซอย 8 เชียงคาน

ร้านดีเลย

ร้านอาหารอร่อยของคนเมืองเลย มีอาหารไทยพื้นบ้าน หลากหลายเมนู รสชาติจัดจ้าน พร้อมเครื่องดื่มร้อนเย็น ขนมหวาน บรรยากาศชิล ด้านในร้านนั่งสบาย ร้านโปร่งๆ มีโต๊ะรองรับได้หลายคน ร้านดีเลยยังรับจัดเลี้ยง-โต๊ะจีน ก่อนกลับสนามบิน จ.เลย เรามาแวะทานข้าวร้านดีเลยกันก่อน เพราะร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินค่ะ

โทร. 099 245 2556

เอาไว้เพื่อนๆ หาโอกาสมาเที่ยว เชียงคาน จ.เลย กันนะคะ เพราะนอกจากเชียงคานแล้ว ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลยค่ะ